วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

ประวัติส่วนตัว

                                         

                                                              ประวัติส่วนตัว

                                               นาย สสุทตย์ ผดุงกิจ ม.4/2 เลขที่12
                                               อาจารย์ ธันยาภรณ์ ศักรามินทร์

การทำขนมครก


ประโยชน์

นสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วยฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม



ขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า)หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา
ขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานศิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น
        ขนมไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณีตบรรจงของขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆ




ขนมครก


ประวัติขนมครก

           ขนมครก เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้ง น้ำตาล และกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม เวลาจะทานต้องแคะออกมา เป็นแผ่นวงกลม แล้วมักวางประกบกันตอนรับประทาน เป็นขนมของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ยังพบในพม่า ลาว และอินโดนีเซีย โดยชาวอินโดนีเซียเรียกว่าเซอราบี (serabi)
           
           มีหลักฐานว่าขนมครกเป็นที่นิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีการทำเตาขนมครกขายตั้งแต่ยุคนั้น ขนมครกแต่เดิมใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำโม่รวมกับหางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ ขนมครกชาววังจะมีการดัดแปลงหน้าขนมครกให้แปลกไปอีก เช่น หน้ากุ้ง (แบบเดียวกับข้าวเหนียวหน้ากุ้ง) หน้าไข่ หน้าหมู (แบบเดียวกับไส้ปั้นสิบ) หน้าเผือก หน้าข้าวโพด หน้าต้นหอม


         หลักฐานเก่าแก่ที่สุดที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างขนมไทยกับคนไทยก็คือวรรณคดีมรดกสุโขทัยเรื่องไตรภูมิพระร่วง ซึ่งกล่าวถึงขนมต้มที่เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งไว้ขนมไทยเริ่มแพร่หลายมากขึ้นในสมัยอยุธยาดังปรากฎข้อความในจดหมาย เหตุหลายฉบับ บางฉบับกล่าวถึง “ ย่านป่าขนม ” หรือตลาดขนม บางฉบับกล่าวถึง “ บ้านหม้อ ” ที่มีการปั้นหม้อ และรวมไปถึงกระทะขนมเบื้องเตาและรัง *ขนมครก* แสดงให้เห็นว่าขนมครกและขนมเบื้องนั้นคงจะแพร่หลายมากจนถึง ขนาดมีการปั้นเตาและกระทะขาย






       ขนมครก มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เนื่องจากประเทศไทย มีข้าวเป็นอาหารหลัก จึงนำข้าวมาทำเป็นอาหารทั้งคาวและหวานมากมาย ขนมครก เป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ ในทุกที่ของประเทศไทยหารับประทานได้ไม่ยากในปัจจุบัน






วิธีการทำขนมครก



ของที่ต้องเตรียม



อุปกรณ์สำหรับทำขนมครก
  1. เครื่องโม่แป้ง(ในกรณีทำแป้งสด)

  2. เบ้าขนมครก

  3. กาสำหรับหยอดแป้ง

  4. ลูกประคบ(ทำด้วยกากมะพร้าวห่อด้วยผ้าขาว)

  5. ช้อนสำหรับแคะขนมครก


วิธีการทำ

ขนมครก.. อาจเป็นอาหารเบา ๆ ยามเช้ากับกาแฟถ้วยโปรด บ้างก็เป็นของว่างยามบ่าย หรือกลายเป็นของหวานยามเย็น เพราะขนมครกหาซื้อได้ง่าย กลิ่นหอม.. ชวนหม่ำ.. หวาน.. มัน.. ถูกปาก
          ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มี "ขนมครก" อยู่ในลิสต์ของหวานสุดโปรดแล้วล่ะก็ ขอให้เกาะกระทู้ไว้ให้มั่น.. แล้วสะกิดคนใกล้ตัวชวนกันมาแคะขนมครกกันดีกว่า เพราะวันนี้เรามีสูตรขนมครกจาก คุณ Three days before Valentine's มาฝากกัน ขอบอกเลยว่าหน้าตาน่าทานสุด ๆ ส่วนรสชาติจะหอม หวาน มัน ขนาดไหนนั้น ต้องลองไปลงมือพิสูจน์กันแล้วล่ะ....

สูตร.... ตัวขนมครก ..

          แป้งข้าวเจ้าตราชัางสามเศียร           400     กรัม
          แป้งข้าวเหนียวตราช้างสามเศียร         50     กรัม
          น้ำกะทิ                                         3     ถ้วย
          น้ำร้อนจัด                                      4     ถ้วย

วิธีทำ

          เริ่มด้วย...เทแป้งข้าวเจ้า 400  กรัม  ใส่อ่างผสมค่ะ

วิธีทำขนมครก

          ตามด้วยแป้งข้าวเหนียว  50  กรัม

วิธีทำขนมครก

          ค่อย ๆ  เท น้ำกะทิตามลงไป   3  ถ้วย

วิธีทำขนมครก

          คนแป้ง เบา ๆ มือนะคะ ใส่น้ำร้อน  4  ถ้วย ตามได้เลยค่ะ

วิธีทำขนมครก

          เมื่อใส่ส่วนผสม ทุกอย่างครบแล้ว คนแป้ง อย่างรวดเร็วนะคะ ....เพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่าง  ละลายเข้ากันค่ะ

วิธีทำขนมครก


สูตร...หน้าขนมครก ..

          หัวกะทิ               3     ถ้วย
          น้ำตาลทราย         2     ถ้วย
          เกลือ                  2     ช้อนชา

วิธีทำ

          เทน้ำตาล ใส่อ่างผสมค่ะ

วิธีทำขนมครก

          ตามด้วยเกลือค่ะ

วิธีทำขนมครก

          จากนั้น เทหัวกะทิ คนส่วนผสมทุกอย่าง... ให้ละลายเข้ากัน.. เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

วิธีทำขนมครก

          นำถาดขนมครก ยกขึ้นตั้งไฟค่ะ เปิดไฟอ่อน ๆ นะคะ ใช้น้ำมันใหม่ ๆ  ขอย้ำ..ต้องน้ำมัน ใหม่ ๆ นะคะ เช็ดให้ทั่วทุกหลุมขนมครกเลยค่ะ

วิธีทำขนมครก

          ดูซิคะ  เอาไว้โรย  หน้าขนมครกค่ะ.... แจ่ม...จ๋วย ...แจ๋ว ..น่าเจี๊ยะ...ไหมคะ ??? มีฝอยทอง  เผือก  ข้าวโพด  ต้นหอม ..

วิธีทำขนมครก

          พอถาด ขนมครก เริ่มร้อน... สังเกตว่ามีควันขึ้นเล็กน้อย... ตักแป้งตัวขนมครก หยอดได้เลย

วิธีทำขนมครก

          ..เวลา หยอดแป้งตัวขนมครก อย่าให้เต็มหลุมนะคะ.. เหลือไว้ หยอดหน้าขนมครกค่ะ..

วิธีทำขนมครก

          หยอดไปได้ สัก  6-7  หลุม ต้องรีบกลับมาหยอดหน้าขนมค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้แป้งตัวขนมสุก.. หน้าขนมที่เป็นหัวกะทิ.. จะไหล...หก..ตกทิ้ง..  น่าเสียดายค่ะ

วิธีทำขนมครก

          เรามาโรยหน้าขนมครกกันเลยค่ะ เมื่อโรยหน้า ขนมตรบแล้ว.. ปิดฝา...นั่งรอ..จินตนาการกันนะคะว่า จะไหม้...เอ้ย..ขออภัยค่ะ .. จะอร่อย..เพียงไร....

วิธีทำขนมครก

วิธีทำขนมครก

          มาเปิดฝา ขนมครก กันค่ะ ยกจานมาค่ะ  จะ..แคะ..ขนมครกแล้ว

วิธีทำขนมครก

          และนี่ก็คือ ขนมครกสวย ๆ สำหรับทุกคน ลองไปทำกันดูนะจ๊ะ

วิธีทำขนมครก

วิธีทำขนมครก

วิธีทำขนมครก

วิธีทำขนมครก

วิธีทำขนมครก

วิธีทำขนมครก

การส่งออก

นิสิต มก. พัฒนาขนมครกไทย สู่ตลาดสากล ใช้ชื่อ “ทาร์ตไท” เรียกแทน ซึ่งทำจากแป้งข้าวกล้องงอก รสชาต อร่อย ถูกปาก คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ประจำปี 2553 
จากขนมครกไทย สู่ ขนมทาร์ตไทฝีมือนิสิตมก.
        จาก “ขนมครก” ซึ่งเป็นขนมเอกลักษณ์ของไทย นิยมรับประทานกันเป็นอาหารว่างตอนเช้า และเป็นที่ ชื่นชอบของผู้บริโภคทุกระดับ ทุกเพศและวัย มาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย นาทีนี้ได้รับการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่“ทาร์ตไท” กรอบนอก นุ่มใน ได้รสชาติและยังได้กลิ่นหอมหวานของกะทิ คัดสรรจากข้าวกล้องพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต เหมาะสำหรับเป็นอาหารว่างสากล สามารถทำการตลาดได้ทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ ผลงานนวัตกรรมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ล่าสุด
     
       และขนมที่ถูกเพิ่มค่าด้วยไอเดียนี้เป็นผลงานสร้างสรรค์โดยนิสิตจากภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นำไปซิวรางวัลชนะเลิศมาแล้วจากการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารในหัวข้อ “Globalize Thai Food to Creative Economy” จากสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สมาคมสภาวิชาการอุตสาหกรรมเกษตร และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ในงาน Food Innovation Asia Conference 2010 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2553
จากขนมครกไทย สู่ ขนมทาร์ตไทฝีมือนิสิตมก.
        โดยผลงานนวัตกรรม “ทาร์ตไท” หรือ ขนมครกกึ่งสำเร็จรูป ประกอบด้วยนางสาวดวงกมล ฉายะศิริพันธ์ นางสาวปรินดา ยุทธหัตชัยชาญ นางสาวพรรัชต์ เถี่ยนมิตรภาพ นางสาวมรกต เรือนแก้ว และนางสาวอุบลรัตน์ ลี้กำจร โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา คือ รศ.ดร.กมลวรรณ แจ้งชัด
     
       รศ.ดร.กมลวรรณ แจ้งชัด ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอาหารว่างเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยพัฒนาขนมไทยซึ่งมีคุณลักษณะแสดงถึงเอกลักษณ์ของไทยให้เป็นอาหารว่างสากลสำหรับผู้บริโภคทั่วไป โดยใช้แป้งข้าวกล้องงอกเป็นวัตถุดิบหลัก และเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพในการส่งออก อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยแนวความคิดในการพัฒนาเริ่มจากกำหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกคือ ใช้ข้าวเจ้าเป็นวัตถุดิบหลัก มีเทคโนโลยีและกรรมวิธีการผลิตรองรับ และมีอายุการเก็บรักษานานกว่า 1 เดือน ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แนวคิดที่ได้ออกมาเป็น “ขนมครกกึ่งสำเร็จรูป” จากนั้นพัฒนาแนวความคิดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ จนได้แนวความคิดเป็น “ผลิตภัณฑ์ทาร์ตไท” ในที่สุด

        ผลิตภัณฑ์ทาร์ตไท” ประกอบด้วยสองส่วน คือ เปลือกทาร์ต หรือ ส่วนของถ้วยขนมครก และหน้าทาร์ตผงกึ่งสำเร็จรูป จากการพัฒนาสูตรและกรรมวิธีการผลิต ได้ส่วนผสมในส่วนของแป้งทั้งของเปลือกทาร์ต และหน้าทาร์ต ทำจากแป้งข้าวกล้องงอก ร้อยละ 100 โดยมีกรรมวิธีการเตรียมที่สะดวกและง่ายต่อการนำมาบริโภค โดยผสมน้ำอุ่นลงในส่วนผสมผงของหน้าทาร์ต คนให้เข้ากัน จากนั้นเข้าเตาไมโครเวฟเป็นเวลา 2 นาที เทหน้าทาร์ตลงในเปลือก ตกแต่งหน้าต่างๆ ด้วยแครอท ฟักทอง ข้าวโพด ที่สุกแล้ว ตามใจชอบ หรืออาจโรยหน้าด้วยต้นหอม ผลิตภัณฑ์ทาร์ตไทจะมีกลิ่นหอมของกะทิและแป้งข้าว โดยเฉพาะมีกลิ่นรสกะทิซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของขนมไทย และมีเนื้อสัมผัสกรอบด้านนอก”
     
       ตามสูตรของขนมครกไทย นับเป็นมิติใหม่ของการพัฒนาขนมไทยซึ่งยังไม่มีผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จำหน่ายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นขนมเล่นแล้วยังมีคุณค่าทางสารอาหารจากการวิเคราะห์คุณภาพของทาร์ตไท พบว่า ผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ ประกอบด้วยเปลือกทาร์ต 8 ชิ้น และหน้าทาร์ตผงสำเร็จรูป มีกรดแกมมาอะมิโนบิวทีริค (Gamma-aminobutyric acid, GABA) เท่ากับ 2.70 mg/100g ค่า aw ของเปลือกทาร์ต และหน้าทาร์ตผงกึ่งสำเร็จรูป มีค่า 0.20 และ 0.23 ตามลำดับ จากการตรวจสอบคุณภาพทางจุลินทรีย์ พบว่า อยู่ภายใต้มาตรฐานอาหารกึ่งสำเร็จรูป และจากการทดสอบการยอมรับของผู้บริโภค พบว่า มีคะแนนความชอบรวมอยู่ในระดับชอบปานกลางถึงชอบมาก

อ้างอิง

http://mansod18za.blogspot.com/2015/09/blog-post.html
http://cooking.kapook.com/view112385.html
http://women.kapook.com/view32556.html
http://datacatalog.
http://pamii-pantita.blogspot.com/2012/03/blog-post.html
https://www.youtube.com