นิสิต มก. พัฒนาขนมครกไทย สู่ตลาดสากล ใช้ชื่อ “ทาร์ตไท” เรียกแทน ซึ่งทำจากแป้งข้าวกล้องงอก รสชาต อร่อย ถูกปาก คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ประจำปี 2553 | |||
และขนมที่ถูกเพิ่มค่าด้วยไอเดียนี้เป็นผลงานสร้างสรรค์โดยนิสิตจากภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นำไปซิวรางวัลชนะเลิศมาแล้วจากการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารในหัวข้อ “Globalize Thai Food to Creative Economy” จากสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สมาคมสภาวิชาการอุตสาหกรรมเกษตร และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ในงาน Food Innovation Asia Conference 2010 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2553 | |||
รศ.ดร.กมลวรรณ แจ้งชัด ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอาหารว่างเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยพัฒนาขนมไทยซึ่งมีคุณลักษณะแสดงถึงเอกลักษณ์ของไทยให้เป็นอาหารว่างสากลสำหรับผู้บริโภคทั่วไป โดยใช้แป้งข้าวกล้องงอกเป็นวัตถุดิบหลัก และเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพในการส่งออก อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยแนวความคิดในการพัฒนาเริ่มจากกำหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกคือ ใช้ข้าวเจ้าเป็นวัตถุดิบหลัก มีเทคโนโลยีและกรรมวิธีการผลิตรองรับ และมีอายุการเก็บรักษานานกว่า 1 เดือน ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แนวคิดที่ได้ออกมาเป็น “ขนมครกกึ่งสำเร็จรูป” จากนั้นพัฒนาแนวความคิดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ จนได้แนวความคิดเป็น “ผลิตภัณฑ์ทาร์ตไท” ในที่สุด | |||
ตามสูตรของขนมครกไทย นับเป็นมิติใหม่ของการพัฒนาขนมไทยซึ่งยังไม่มีผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จำหน่ายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นขนมเล่นแล้วยังมีคุณค่าทางสารอาหารจากการวิเคราะห์คุณภาพของทาร์ตไท พบว่า ผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ ประกอบด้วยเปลือกทาร์ต 8 ชิ้น และหน้าทาร์ตผงสำเร็จรูป มีกรดแกมมาอะมิโนบิวทีริค (Gamma-aminobutyric acid, GABA) เท่ากับ 2.70 mg/100g ค่า aw ของเปลือกทาร์ต และหน้าทาร์ตผงกึ่งสำเร็จรูป มีค่า 0.20 และ 0.23 ตามลำดับ จากการตรวจสอบคุณภาพทางจุลินทรีย์ พบว่า อยู่ภายใต้มาตรฐานอาหารกึ่งสำเร็จรูป และจากการทดสอบการยอมรับของผู้บริโภค พบว่า มีคะแนนความชอบรวมอยู่ในระดับชอบปานกลางถึงชอบมาก |
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558
การส่งออก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น